วันอาทิตย์ที่ 5 มกราคม พ.ศ. 2557

อนุทินที่ 4


1. เหตุผลทำไมต้องประกาศพระราชบัญญัติการศึกษาภาคบังคับ พ.ศ. 2545
    ตอบ  
เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี้ คือ โดยที่กฎหมายว่าด้วยการศึกษาแห่งชาติได้กำหนดให้บิดา มารดา หรือผู้ปกครองมีหน้าที่จัดให้บุตรหรือบุคคลซึ่งอยู่ในความดูแลได้รับการศึกษาภาคบังคับจำนวนเก้าปีโดยให้เด็กซึ่งมีอายุย่างเข้าปีที่เจ็ดเข้าเรียนในสถานศึกษาพื้นฐานจนอายุย่างเข้าปีที่สิบหก เว้นแต่จะสอบได้ชั้นปีที่เก้าของการศึกษาภาคบังคับ จึงสมความปรับปรุงกฎหมายว่าด้วยการประถมศึกษา เพื่อให้เหมาะสมและสอดคล้องกับกฎหมาย

2. ท่านเข้าใจความหมายตามพระราชบัญญัติการศึกษาภาคบังคับ พ.ศ. 2545 อย่างไร
   ก
.ผู้ปกครอง ข.เด็ก  ค.การศึกษาภาคบังคับ  ง. องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
 ตอบ  
.ผู้ปกครอง หมายความว่า บิดามารดา หรือบิดา หรือมารดา ซึ่งเป็นผู้ใช้อำนาจปกครอง หรือผู้ปกครองตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ และหมายความรวมถึงบุคคลที่เด็กอยู่ด้วยเป็นประจำหรือที่เด็กอยู่รับใช้การงาน
 ข.เด็ก หมายความว่า เด็กซึ่งมีอายุย่างเข้าปีที่เจ็ดจนถึงอายุย่างเข้าปีที่สิบหกเว้นแต่เด็กที่สอบได้ชั้นปีที่เก้าของการศึกษาภาคบังคับแล้ว
           ค.การศึกษาภาคบังคับ หมายความว่า การศึกษาชั้นปีที่หนึ่งถึงชั้นปีที่เก้าของการศึกษาขั้นพื้นฐานตามกฎหมายว่าด้วยการศึกษาแห่งชาติ 
        ง. องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หมายความว่า องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีสถานศึกษาอยู่ในสังกัด

3. กรณีผู้ปกครองไม่ส่งเข้าเรียนตามที่กฎหหมายฉบับนี้กำหนดจะต้องถูกลงโทษอย่างไร และถ้าเด็กไม่สามารถเข้ารับการศึกษาใครจะเป็นผู้มีอำนาจในการผ่อนผันเด็กเข้าเรียน
   ตอบ 
กฎหมายฉบับนี้กำหนดจะต้องถูกลงโทษโดยปรับไม่เกินหนึ่งพันบาท แล้วให้ผู้ปกครองส่งเด็กเข้าเรียนในสถานศึกษา เมื่อผู้ปกครองร้องขอ ให้สถานศึกษามีอำนาจผ่อนผัน ให้เด็กเข้าเรียนก่อนหรือหลังอายุตามเกณฑ์การศึกษาภาคบังคับได้ ทั้งนี้ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่คณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานกำหนด

4. ให้นักศึกษาสรุปประเด็นสำคัญที่ได้จากการอ่านพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการกระทรรวงศึกษาธิการ มีทั้งหมด 21 ข้อ
1.  อำนาจหน้าที่ของกระทรวงศึกษาธิการกำหนดไว้ในกฎหมายฉบับใด
     ตอบ   ค  
พรบ.ระเบียบบริหารราชการกระทรวงศึกษาธิการ
2.  ข้อใด คืออำนาจหน้าที่ของกระทรวงศึกษาธิการ
     ตอบ  ง 
 ถูกทุกข้อ
3. การจัดระเบียบกระทรวงศึกษาธิการจัดได้เป็น ส่วนคือข้อใด
     ตอบ  ง 
 ส่วนกลาง เขตพื้นที่การศึกษา และสถานศึกษาของรัฐระดับปริญญาที่เป็นนิติบุคคล
4.  การกำหนดตำแหน่งและอัตราเงินเดือนของข้าราชการในกระทรวงศึกษาธิการให้คำนึงถึงข้อใด
     ตอบ  
ง.  ข้อ ก. และ ข. ถูกต้อง
5. บทบาทของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ที่จะต้องดำเนินการตาม พรบ. นี้คือข้อใด
 
    ตอบ  ง.  ข้อ ก และ ข ถูกต้อง
6. ข้อใดคือการจัดระเบียบบริหารราชการส่วนกลาง
     ตอบ  
ง. ถูกทุกข้อ
7. ส่วนราชการส่วนกลางของกระทรวงศึกษาธิการตามข้อใดที่ไม่เป็นนิติบุคคล
     ตอบ  
ก. สำนักงานรัฐมนตรี
8. ใครเป็นผู้บังคับบัญชาข้าราชการในกระทรวงศึกษาธิการ
   
  ตอบ  ก. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ
9. ข้อใดไม่ใช่อำนาจหน้าที่ของสภาการศึกษา
   
  ตอบ  ค. ประเมินผลการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน
10. ใครเป็นประธานคณะกรรมการสภาการศึกษา
      ตอบ  
ค. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ
11. คณะกรรมการชุดใดที่กำหนดตำแหน่งประธานกรรมการไว้ใน พรบ. นี้
      ตอบ
  ก. คณะกรรมการสภาการศึกษา
12. ใครทำหน้าที่รับผิดชอบงานเลขานุการของคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน       
      ตอบ  ง. ข้อ ก และ ข ถูกต้อง
13. บุคคลใดต่อไปนี้เป็นข้าราชการการเมือง
       ตอบ  
ง. ข้อ ข และ ค ถูก
14. ข้อใดไม่ใช่หน้าที่ของผู้ตรวจราชการกระทรวงศึกษาธิการ       
       ตอบ  ง. ติดตาม ประเมินผลนโยบายตามภารกิจ
15. หน่วยงานระดับใดสามารถมีผู้ตรวจราชการได้
       ตอบ  
ง. ถูกทุกข้อ
16. ข้อใด คือบทบาทของคณะตรวจราชการในระดับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา
       ตอบ  
ค. ศึกษา วิเคราะห์วิจัย นิเทศติดตามและประเมิน ผลการบริหารและการดำเนินงาน
17. ข้อใด คือบทบาทของกระทรวงศึกษาธิการที่มีต่อองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
       ตอบ  
ง. ถูกทุกข้อ
18. ในกรณีที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาไม่อาจจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานหรือการ ศึกษาระดับอุดมศึกษาระดับต่ำกว่าปริญญาได้หน่วยงานใดจะเป็นผู้จัด
        ตอบ  
ก. สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ
19. หน่วยงานอื่นสามารถจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานใดได้บ้าง หากสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาไม่สามารถจัดได้
       ตอบ  
ง. ถูกทุกข้อ
20. ใครเป็นผู้บังคับบัญชาข้าราชการในสำนักงานรองจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ
        ตอบ  ง. ข้อ ก และ ข
 21. ใครเป็นผู้บังคับบัญชาข้าราชการในสถานศึกษาของรัฐในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา
        ตอบ  ง. เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา